ยาสามัญประจำบ้าน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นยาที่สามารถใช้ในครัวเรือนได้ โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ เพื่อใช้รักษาอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งแต่ละบ้านจะมียาสามัญประจำบ้านกี่ชนิด กี่อย่าง เยอะหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในการซื้อของผู้อยู่อาศัยในบ้านนั้น บางคนอาจมีเพียงยาพาราตัวเดียว หรือบางคนอาจมีเป็นเซต ทั้งยาพาราเซลตามอล ยาธาตุน้ำขาว หรือ ยาอื่นๆ รวมถึงอุปกรณ์ทำแผลด้วย
แต่ด้วยยุคปัจจุบันที่ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 3 ปี แล้ว ก็ยิ่งทำให้อุปกรณ์ และยาสามัญประจำบ้าน อาจเปลี่ยนแปลงไป โดยควรมีอะไรบ้าง
1.พาราเซตามอล (Paracetamol) ถือเป็นยาสามัญที่หลายคนมีติดบ้านอยู่แล้ว ไว้ใช้รับประทานในช่วงที่เรามีอาการปวดหัว หรือลดไข้ โดยในการทานแต่ละครั้งต้องไม่เกิน 10 – 15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม รับประทานซ้ำได้ถ้ายังมีอาการ ทุก 4 ชั่วโมง
2.ยาบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน (Domperidone) ซึ่งจะช่วยในการลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และยังอาจนำมาใช้รักษาอาการที่เกิดขึ้นจากการย่อยอาหารล่าช้าจนมีอาการแน่นท้อง ท้องอืด เรอ คลื่นไส้ แสบร้อนกลางอก และปวดท้อง โดยสามารถรับประทานยานี้ก่อนอาหาร เมื่อมีอาการได้สูงสุดวันละ 3 เวลา
3.ผงเกลือแร่ เป็นตัวช่วย สำหรับการชดเชยการสูญเสียน้ำจากการอาเจียน หรือท้องเสีย ถ่ายเหลว โดย 1 ซองสามารถชงได้กับน้ำ 250 มิลลิลิตร แล้วค่อยจิบ หรือจะดื่มหมดในคราวเดียวก็ได้
4.ยาขับลมแก้ท้องอืด รับประทานเมื่อมีอาการแน่นท้อง ท้องอืด จุกเสียด ส่วนใหญ่เกิดจากที่อาหารไม่ย่อย หรือทานอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารมากเกินไป นอกจากจะมีอาการจุกเสียดแล้ว อาจทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย โดยมียาที่นิยมใช้เพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้ได้แก่ ยาธาตุน้ำแดง ที่ใช้เพื่อขับแก๊สในกระเพาะอาหาร
5.ยากดอาการไอ ใช้เพื่อช่วยบรรเทาอาการไอ และไม่ควรใช้เมื่อมีอาการไอแบบมีเสมหะ ใช้สำหรับรักษาภาวะอาการที่เกิดมูกเหลวเหนียวข้นขึ้นจนเป็นปัญหาต่อการหายใจจากภาวะหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะในระบบทางเดินหายใจครับ โดยจะมีทั้งรูปแบบยาเม็ดและยาน้ำ แต่ส่วนใหญ่แล้วนิยมใช้ยาน้ำในการบรรเทา เช่นยาแก้ไอน้ำดำที่คุ้นหูนั่นเองครับ เพราะมีตัวยาที่สำคัญ คือ ฝิ่นมีฤทธิ์ระงับการไอ และ ชะเอม
6.ยาขับเสมหะ หรือยาละลายเสมหะ ช่วยเจือจางหรือช่วยให้ร่างกายขับเสมหะได้ดีขึ้น ใช้สำหรับรักษาภาวะอาการที่เกิดมูกเหลวเหนียวข้นขึ้นจนเป็นปัญหาต่อการหายใจจากภาวะหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะในระบบทางเดินหายใจ
7.ยาหยอดตา บรรเทาอาการระคายเคืองตา ในปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่มักจะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือ โทรศัพท์ เป็นเวลานาน จึงเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะเกิดอาการตาล้า ตาแห้ง หรือระคายเคืองตา ยาหยอดตา จึงจำเป็นมากๆที่ควรมีติดบ้านเอาไว้ครับ เพราะมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองตา ตาแดง หรือตาอักเสบ และสำหรับใครที่มีอาการตาแห้งอยู่บ่อย ๆ ควรใช้ยาหยอดตาแบบน้ำตาเทียม
8.ปรอทวัดไข้ เพื่อตรวจสอบอาการตนเองเวลารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่สบาย
9.น้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ความเข้มข้นร้อยละ 70 – 90 เช็ดทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม
10.หน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า เพื่อป้องกันการแพร่และรับเชื้อทางการหายใจ
เมื่อจัดเตรียมยาสามัญประจำบ้าน ที่ต้องมีไว้ในยุค New Normal นี้เรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุ และ อ่านฉลากการใช้ยาอย่างระมัดระวังกันด้วยนะครับ และที่สำคัญที่สุดคือ คือการเตรียมตัว ดูแลรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ หากจำเป็นต้องออกจากบ้าน ควรสวมหน้ากากและหมั่นล้างมือ ลดการใช้มือสัมผัสหน้ากากและบริเวณหน้า เพื่อลดการนำเชื้อเข้าสู่ร่างกายนั่นเอง
สนับสนุนโดย sacasino.win