Sunday, 14 April 2024

เทคนิคการปลูกไม้ดอก

ปก-เทคนิคการปลูกไม้ดอก

ควรใช้พื้นกระเบื้องยางเพื่อปลูกไม้ดอกหรือไม่?

Advantages and disadvantages of rubber flooring should be considered when deciding whether to use it for planting flowers. Rubber flooring offers great durability, easy maintenance, and resistance to moisture, making it suitable for potted plants. However, it may not provide sufficient support for deep-rooted flowers, and the synthetic material can affect soil drainage. Ultimately, careful consideration should be given to the specific needs of the flowers before choosing rubber flooring.

การเพาะขยายพันธุ์

พันธุ์ไม้ประเภทไม้ดอก ไม้ประดับนิยมเพาะขยายพันธุ์ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้ 1.การเพาะเมล็ด เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับการขยายพันธุ์สำหรับพรรณไม้ล้มลุก อายุไม่กี่เดือน มักเป็นไม้มีดอก เช่น ดาวเรือง ทานตะวัน เป็นต้น 2.การแยกหน่อ แยกเหง้า เป็นวิธีที่ใช้มากสำหรับพืชใบเลี้ยงเดี่ยวจำพวกพรรณไม้ประเภทใบประดับหรือต้นประดับ เช่น พลูด่าง แก้วกาญจนา เป็นต้น 3.การปักชำ เป็นวิธีที่ใช้มากสำหรับพืชใบเลี้ยงเดี่ยวหรือใบเลี้ยงคู่ ที่มีอายุหลายปี มักเป็นพรรณไม้ประเภทใบประดับ ต้นประดับเช่นกัน 4.การตอน เป็นวิธีที่ใช้สำหรับพรรณไม้ยืนต้น มีกิ่ง มักเป็นไม้ประดับต้นหรือไม้มีดอกสวยงาม เช่น กุหลาบ เฟื่องฟ้า เป็นต้น การปลูกไม้ดอกและไม้ประดับ สามารถจำแนกเป็น 2 ลักษณะ คือ 1.การปลูกในกระถาง เป็นวิธีการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับด้วยการปลูกในกระถาง ซึ่งอาจเป็นกระถางพลาสติก กระถางดินเผา กระถางไม้ หรือกระถางที่ทำจากวัสดุอื่นๆ เหมาะสมหรับไม้ดอก ไม้ประดับที่มีลำต้นขนาดเล็ก ไม่สูงมาก ทรงพุ่มไม่กว้าง ต้องการแสงน้อย เช่น กุหลาบ พลูด่าง ดาวเรือง แก้วกาญจนา เป็นต้น 2.การปลูกลงแปลงจัดสวน เป็นวิธีการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับลงในแปลงปลูกหรือเรียกทั่วไปว่า การจัดสวน ซึ่งจำเป็นต้องมีที่ดินหรือที่ว่างเปล่า เช่น พื้นที่หน้าบ้าน ข้างบ้านหรือหลังบ้าน เหมาะสำหรับการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับทุกขนาดชนิดตั้งแต่เล็กจนถึงเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ไม้ดอกไม้ประดับ

การวางแผนสวนดอกไม้

1.หาดินที่ดีที่สุดมา ดอกไม้ก็เหมือนพืชชนิดอื่นๆ ที่ต้องการดินดีๆ ในการเติบโตอย่างแข็งแรงสุขภาพดี ไม่ว่าคุณจะปลูกดอกไม้ในกระถางหรือในสวน ดินดีๆ ก็เป็นสิ่งจำเป็นอยู่ดี ให้หาว่าดอกไม้ที่คุณจะปลูกนั้นเหมาะกับเงื่อนไขของดินแบบใดที่สุด และหาที่ที่ดีที่สุดหรือผสมดินลงกระถางเพื่อปลูกดอกไม้ 2.เลือกสถานที่ แม้ว่าดอกไม้จะเติบโตได้ง่าย แต่ใช่ว่าจะโตได้ทุกที่ สถานที่ที่มีแดดจ้าเกินหรือร่มเกินก็จะทำให้ดอกไม้บางชนิดเติบโตขึ้นได้ยาก ให้หาว่าแสงแดดแบบไหนที่เหมาะกับดอกไม้ที่คุณจะปลูกที่สุดมา ถ้าคุณมีต้นไม้ที่อยากจะปลูกไว้ในใจแล้ว ให้ตรวจดูแสงสำหรับต้นไม้ต้นนั้นก่อนและค่อยเลือกแปลงปลูกตามมา คุณอาจอยากเลือกสถานที่ที่แสงอาทิตย์มากกว่าหรือน้อยกว่าแปลงปลูกเดิมที่มีก็ได้ ถ้าคุณวางแผนจะปลูกดอกไม้กลายๆ ชนิด ให้เลือกแบบที่ชอบแสง/เงาคล้ายๆ กัน เพื่อที่จะได้เติบโตมาอย่างเท่ากันได้ดีในสถานที่เดียวกัน 3.ตัดสินใจเลือกดอกไม้ ไปดูสวนดอกไม้แถวๆ บ้านเพื่อเลือกดอกไม้ที่ดีที่สุดสำหรับสวนของคุณ การปลูกจากเมล็ด จากต้นเล็กๆ จากหน่อ หรือจากการตอนก็ต้องใช้กระบวนการที่ใกล้เคียงกัน ฉะนั้นให้มุ่งเน้นที่ดอกไม้ที่คุณชอบและที่มันจะเพิ่มความสวยงามให้กับสวนของคุณจะดีกว่า ให้ตรวจสอบป้ายที่มากับดอกไม้ หรือบรรจุภัณฑ์ของเมล็ดเพื่อให้แน่ใจว่าดอกไม้นี้ใช่แบบที่คุณต้องการแล้ว ให้ดูตอนที่ดอกไม้โตเต็มวัย มันจะมีขนาดใหญ่มากๆ และเป็นพุ่ม หรือว่าจะยังเป็นดอกเล็กๆ อยู่? มันจะโตขึ้นเป็นไม้ยืนต้นสูงๆ หรือเลื้อยไปมาเป็นเถาวัลย์ ให้ลองถามหาดอกไม้ท้องถิ่นก่อนที่จะดูดอกไม้พันธุ์อื่นที่มีอยู่ ดอกไม้ที่อยู่บริเวณพื้นที่ของคุณจะรู้กันดีว่าเป็นดอกไม้ที่ปลูกแล้วโตได้ดีบนดิน อุณหภูมิ และความชื้นในบริเวณที่คุณอยู่นั่นเอง ให้ตรวจดูว่าดอกไม้ที่คุณจะปลูกเป็นแบบพืชปีเดียวหรือพืชยืนต้น พืชปีเดียวจะบานแค่ครั้งเดียวต่อปี และต้องปลูกใหม่ปีต่อปี แต่มีชื่อเสียงด้านสีที่สดใสและมีดอกที่สวยงาม ส่วนพืชยืนต้นจะโตขึ้นทุกๆ ปีโดยไม่ต้องปลูกใหม่ และจะเติบใหญ่ขึ้นไปอีก อ่านป้ายเพื่อดูว่าควรรดน้ำให้ดอกไม้เท่าไร บางพันธุ์ก็ควรรดบ่อยๆ แต่บางพันธุ์ก็ไม่ต้องการน้ำถี่นัก ถ้าคุณจะปลูกหลายๆ พันธุ์ที่ต่างกันออกไป ให้เลือกพันธุ์ที่ต้องการน้ำเท่าๆ กัน ไม้ดอก 4.ปลูกให้ถูกเวลา แม้จะมีดินดี สถานที่ในฝัน และดอกไม้ที่สุขภาพแข็งแรงแล้ว ถ้าหากว่าคุณปลูกผิดเวลา สวนก็อาจล่มได้ ดอกไม้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบอากาศที่หนาวหรือร้อนเกินไป ฉะนั้นช่วงที่ดีที่สุดในการปลูกดอกไม้คือฤดูใบไม้ผลิ เพราะมันอยู่ระหว่างช่วงเวลาที่ไม่หนาวหรือร้อนไปนี่เอง แม้ว่าการปลูกในฤดูใบไม้ผลิมันอาจดูชัดไป แต่การเลือกเวลาที่เหมาะสมที่สุดก็ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง สำหรับของต้นไม้จำพวกหอมและดอกไม้ป่าที่มีข้อยกเว้นให้ปลูกในฤดูใบไม้ร่วง ให้รอเพื่อที่จะปลูกดอกไม้จนกว่าจะถึงอย่างน้อยสองสัปดาห์หลังจากสภาพอากาศที่เย็นที่สุดในช่วงนั้นๆ และเลี่ยงอย่าปลูกดอกไม้จนกว่าอุณหภูมิในตอนกลางคืนไม่ติดลบจนเป็นปกติ treemusketeers แนะนำให้ใช้ปฏิทินบันทึกเหตุการณ์ประจำปีของชาวนาเพื่อหาว่าเวลาไหนเหมาะที่สุดในการปลูกดอกไม้ในท้องถิ่นของคุณ เพราะอากาศที่ต่างกันในแต่ละสถานที่นั่นเอง โดยดอกไม้สามารถปลูกช่วงไหนก็ได้ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – กรกฎาคม ตรวจสอบที่บรรจุภัณฑ์ของเมล็ดดอกไม้ที่คุณต้องการจะปลูก เพื่อหาช่วงเวลาที่ควรปลูกดอกไม้ชนิดนั้นที่สุด

สนับสนุนโดย club-alacranes.com