ปัญหาสมาธิสั้นไม่ได้มีแค่เฉพาะในเด็กเท่านั้น เพราะตามสถิติแล้วพบว่า เด็กที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้นหรือ Attention deficit hyperactivity disorder (ADHD) นั้น จำนวนเกือบ 50% จะมีอาการติดตามมาจนโต และนี่ยังไม่นับผู้ใหญ่อีกจำนวนมากที่ไม่รู้ตัว และไม่ได้รับการวินิจฉัยอย่างจริงจัง
บางคนพบเจอปัญหาชีวิตมากมาย เช่น มักมีปัญหาเรื่องการใช้จ่ายเงินและการบริหารเงิน มักเปลี่ยนงานบ่อยกว่าคนทั่วไป มักมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ในรูปแบบเดิมซ้ำๆ ไม่ว่าจะเปลี่ยนคนรักไปกี่คนก็ตาม ฯลฯ นี่ยังไม่นับรวมปัญหาคลาสสิคอย่างการไม่สามารถทำงานให้จบได้ การผัดวันประกันพรุ่ง หรือการส่งงานหรือไปตามนัดหมายช้ากว่าเวลาที่กำหนดเสมอ
แรงบันดาลใจที่ให้ผู้เขียนหันมาศึกษาปัญหา ADHD ในผู้ใหญ่อย่างจริงจังเพราะผู้เขียนสังเกตเห็นอาการและปัญหาของตัวเอง และสงสัยว่าตัวเองก็มีอาการสมาธิสั้นด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะไม่เคยไปให้คุณหมอวินิจฉัย แต่อาการหลายอย่างที่เข้าข่ายก็เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตและการประสบความสำเร็จอย่างมาก จึงเป็นที่มาในการลงมาลุยเรื่องนี้อย่างจริงจัง
1.คุณขาดสมาธิและความสนใจที่ต่อเนื่อง
หลายครั้งที่คุณถูกกวนให้เสียสมาธิได้ง่าย หรือถูกดึงความสนใจให้ออกจากสิ่งที่ทำอยู่ง่ายเกินไป คุณไม่มีสมาธิจะฟังใครพูดได้นาน บางครั้งไม่สนใจรายละเอียด มักทำงานหรือโปรเจ็คไม่จบ หลายครั้งที่คุณอาจพบว่าตัวเองหยิบโหย่ง ทำยังไม่ทันสำเร็จก็เปลี่ยนใจไปทำอย่างอื่นแล้ว
2.คุณจมดิ่งอยู่ในความสนใจบางอย่างมากเกินไป
อาการนี้ตรงกันข้ามกับข้อด้านบน คือจมอยู่กับสิ่งที่กำลังทำ (เฉพาะสิ่งที่สนใจมากๆ) จนไม่สนใจสิ่งที่อยู่แวดล้อม ไม่ได้ยินเวลาคนอื่นพูด ไม่ให้ความสนใจกับคนที่อยู่ด้วย จนเป็นเหตุให้เกิดความเข้าใจผิดและปัญหาความสัมพันธ์ได้
3.คุณยุ่งเหยิง รกรุงรัง
คนทั่วไปอาจเกิดปัญหานี้ขึ้นได้บางครั้ง แต่สำหรับคนที่สมาธิสั้นมักจะเป็นแบบนี้เสมอเข้าขั้นเป็นรูปแบบการใช้ชีวิต คุณมักจะไร้ระเบียบ การจัดระเบียบทั้งเรื่องงาน สิ่งของ เอกสาร ฯลฯ เป็นเรื่องยากทั้งสิ้น รวมถึงไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของงานหรือเวลาที่มีปัญหาเข้ามาได้
4.คุณมักบริหารเวลาได้แย่มาก
ทั้งเรื่องการทำงานให้เสร็จตามเวลา ชอบผัดวันประกันพรุ่ง ไม่ยอมลงมือทำงานสำคัญซักที หรือไม่ยอมเริ่มทำงานที่เห็นว่าน่าเบื่อ หลายครั้งที่คุณไปตามนัดสาย ซึ่งถึงแม้ว่าคุณจะรู้ตัว แต่ก็พบว่าควบคุมตัวเองได้ยากเหลือเกิน
5.คุณมักขี้ลืม
คนทั่วไปก็มีปัญหาการลืมได้บางครั้ง แต่สำหรับคนสมาธิสั้นนั้นมักลืมเป็นประจำ กลายเป็นบุคลิกภาพประจำตัวไปแล้ว ตั้งแต่ลืมว่าเก็บกุญแจไว้ที่ไหน ไปจนถึงการลืมนัดหมายที่สำคัญ (ถ้าไม่บันทึกและให้แจ้งเตือนไว้) ซึ่งปัญหานี้จะลุกลามสร้างความเสียหายได้หากไม่รีบแก้ไข ทั้งเรื่องหน้าที่การงาน ไปจนถึงเรื่องความสัมพันธ์
6.คุณไม่มีแรงกระตุ้น
โดยเฉพาะภารกิจที่คุณมองว่าน่าเบื่อ คุณจะไม่สามารถบังคับตัวเองให้เริ่มทำงานชิ้นนั้นได้ง่าย ๆ แม้จะรับปากคนอื่นไว้แล้วก็ตาม ยิ่งประกอบกับอาการที่ชอบผัดวันประกันพรุ่งและการไม่สามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผนได้ จะทำให้ผลลัพธ์ในชีวิตคุณเลวร้ายลงเรื่อย ๆ
7.คุณมักกระวนกระวายและวิตกกังวล
เรื่องราวในหัวของคุณดูปั่นป่วนและยุ่งเหยิง และดูเหมือนว่าจะไม่มีวันปิดมันได้ คุณจะคิดเรื่องที่กังวลซ้ำ ๆ วนอยู่ในหัว จนถึงขั้นนอนไม่หลับ หลายครั้งที่แสดงออกมาทางร่างกายผ่านอาการลุกลี้ลุกลน อยู่ไม่สุข อย่างการเขย่าขา เคาะปากกาซ้ำ ๆ หรือนั่งนิ่ง ๆ ไม่ได้
8.คุณอ่อนล้าหมดพลัง
อาจเป็นเพราะอาการอยู่ไม่สุข วิกกังวลเกินไป ลุกลี้ลุกลน หรือการทำอะไรอยู่ตลอดเวลา หรือนอนไม่หลับ ยิ่งทำให้คุณรู้สึกอ่อนล้า จนไม่มีแรงจะทำงานให้เสร็จสิ้น นั่นยิ่งจะทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงไปอีก
9.คุณมีปัญหาสุขภาพ
ด้วยความยุ่งเหยิงในการใช้ชีวิต การปั่นงานข้ามวันข้ามคืนเพราะใกล้จะเลยกำหนดส่ง และการไม่ยอมทำในสิ่งที่สำคัญ เป็นได้มากว่าคุณจะมีปัญหาสุขภาพตามมา ทั้งเรื่องการกินอาหารให้ตรงเวลา การพักผ่อนที่เพียงพอ การไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งการลืมกินยาตามกำหนด ซึ่งนั่นจะยิ่งทำให้ชีวิตคุณย่ำแย่ลงไปอีก
10.คุณมีปัญหาความสัมพันธ์
ตามสถิติแล้วผู้ใหญ่ที่มีอาการสมาธิสั้นจะมีปัญหาความสัมพันธ์สูงมาก ทั้งกับคนที่ทำงาน คนรัก หรือญาติมิตรสหาย ด้วยอาการที่ชอบขัดจังหวะ ไม่สนใจคนรอบข้าง อารมณ์ขึ้นลงบ่อย ลืมนัดหมาย ทำให้คุณถูกมองว่าเป็นคนไร้ความรับผิดชอบ และไม่แคร์คนอื่น
สนับสนุนโดย sacasino.win