หากจะเลือกทานโปรตีนพืชให้เหมาะ จำเป็นต้องคำนึงสำหรับเพศ อายุ สุขภาพร่างกาย และโรคประจำตัวเรา เพราะเราอาจจะไม่ได้เลิกทานโปรตีนสัตว์ทันที แต่ควรพยายามลด ละ ทำต่อไปทีละหน่อย ให้ร่างกายได้ปรับพักผ่อน ไม่เครียด เกิดความสมดุลระหว่างความสุขกาย ความสุขใจ
โปรตีนเป็นสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อร่างกาย หลายท่านมักเข้าใจผิดว่า การได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอนั้น จำเป็นต้องได้รับจากเนื้อสัตว์ อาหารทะเล หรือไข่เท่านั้น แต่องค์ประกอบของโปรตีนในอาหาร เราสามารถได้รับโปรตีนที่เพียงพอจากโปรตีนในเนื้อสัตว์กับโปรตีนที่พบในพืช จึงทำให้ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ หรือทานทั้งเนื้อสัตว์ทานทั้งผักด้วยก็สามารถได้รับโปรตีนเช่นเดียวกัน ซึ่งความต้องการโปรตีนนั้นจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัย เช่น ช่วงวัย อายุ เพศ ปริมาณกล้ามเนื้อในร่างกาย โรคประจำตัวหรือสภาวะโภชนาการส่วนบุคคล ที่ควรต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือนักกำหนดอาหารเพื่อช่วยในการประเมินความต้องการ และให้แนะนำเพิ่มเติม
ก่อนที่เราจะไปรู้จักโปรตีนในพืชแต่ละชนิดนั้น มาทำความรู้จักกับคุณประโยชน์ของโปรตีนต่อสุขภาพเรากันก่อน คุณประโยชน์แรกที่หาไม่ได้จากเนื้อสัตว์คือ โปรตีนพืชนั้น มีใยอาหารสูง ใยอาหารหรือกากใยมี 3 ชนิดคือ ใยอาหารที่ละลายในน้ำได้ (Soluble Fiber) ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลและไขมันเข้าสู่ร่างกาย, ใยอาหารที่ไม่ละลายในน้ำ (Insoluble Fiber) ชนิดนี้ไม่ละลายน้ำ จึงสามารถจับตัวเกาะเป็นมวลอุจจาระ ทำให้ระบบขับถ่ายเราทำงานปกติ ช่วยป้องกันไม่ให้ท้องผูกได้ และชนิดที่ 3 ใยอาหารที่เพิ่มการหมัก (Fermentable Fibers) คือใยอาหารที่เพิ่มการหมักของระบบการย่อยอาหาร โดยปริมาณใยอาหารที่ร่างกายมนุษย์เราต้องการต่อวัน ประมาณ 25-30 กรัม ซึ่งในโปรตีนพืชนั้นมีใยอาหารและโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ตัวอย่างเช่น
1.ช่วยลดน้ำหนัก งานวิจัยใน The New England Journal of Medicine (NEJM) ในปี ค.ศ.2011 ทำการศึกษาการรับประทานอาหารของอาสาสมัคร 120,000 คน เป็นเวลา 20 ปี ที่รับประทานถั่ว ธัญพืช และโปรตีนพืชสูง พบว่า ช่วยควบคุมน้ำหนักและลดน้ำหนักได้ดีกว่าคนปกติ และรักษาผู้ป่วยโรคอ้วนได้อีกด้วย
2.ช่วยลดน้ำตาลในเลือด การรับประทานโปรตีนจากพืช นอกจากจะได้รับโปรตีนแล้ว ยังช่วยป้องกันเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ ตัวอย่างงานวิจัยใน The European Journal of Clinical Nutrition ปี ค.ศ.2015 พบว่ากากใยในพืชจะช่วยลดน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะแตกต่างจากโปรตีนจากเนื้อแดงหรือเนื้อแปรรูปจะเพิ่มอัตราการเป็นโรคเบาหวานถึง 51%
3.ช่วยลดระดับไขมันในเลือด กากใยนี้ก็จะช่วยลดไขมันในเลือด เช่น คอเลสเตอรอล ช่วยให้การย่อยอาหารและชะลอการดูดซึมของไขมันในลำไส้
4.ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ ที่เคยมีการศึกษาวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร JAMA ปี ค.ศ.2005 และมีการวิจัยไว้ล่าสุดในปี 2020 โดย The American Heart Association Epidemiology and Prevention Lifestyle and Cardiometabolic มีทำการศึกษาโดยเก็บข้อมูลด้านพฤติกรรมการบริโภคอาหารต่างๆ ของประชากร 37,000 คน อายุเฉลี่ย 50 ปี พบว่าหากแบ่งปริมาณเนื้อสัตว์ออกเป็นส่วน โดยปริมาณ 1 ส่วนนั้นคือเนื้อสัตว์ประมาณ 1 ขีด (เนื้อสัตว์ 6 ช้อนโต๊ะ) หรือประมาณจากสายตาได้โดยการวางเนื้อสัตว์ลงบนฝ่ามือ ไม่รวมนิ้วมือวางบนฝ่ามือได้พอดี
5.ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง องค์การอนามัยโลก หรือ WHO จะมีหน่วยงานหนึ่งคือ องค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ หรือ IARC ได้ทำการศึกษาวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ของการเกิดโรคมะเร็งกับการรับประทานเนื้อสัตว์แปรรูป พบว่าเนื้อแปรรูปหรือที่เรียกว่า Processed Meat นั้น ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่เป็นสารก่อมะเร็งกลุ่มแรงสุด คือ กลุ่ม 1 ซึ่งก่อให้เกิดโรคมะเร็งแน่นอน ถ้าคนเราทานสารกลุ่มนี้ที่อาจอยู่ในรูปของเนื้อแปรรูปเข้าไป ควรต้องระมัดระวังเรื่องโรคมะเร็งมาก
สนับสนุนโดย ufa6556.pro