Monday, 15 April 2024

ครบเครื่องเรื่อง ‘ชีส’

22 Jan 2023
223

ปก ครบเครื่องเรื่อง ‘ชีส’

คำว่าชีส มีรากศัพท์เดิมมาจากคำในภาษาละตินว่า Caseus หมายถึงก้อนโปรตีนที่ได้จากน้ำนม แต่ในภาษาไทย ชีส มีชื่อเรียกว่าเนยแข็ง ทำให้หลายคนเข้าใจไปว่าชีสคือเนยอย่างหนึ่ง ทั้งที่จริงแล้วเนยแข็งและเนยมีข้อแตกต่างกันมากมาย แม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมเหมือนกันก็ตาม

ความแตกต่างสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เนยแข็งไม่นับว่าเป็นเนย คือ เนยแข็งหรือชีสนั้นเป็นส่วนของโปรตีนในน้ำนมที่ถูกทำให้ตกตะกอนด้วยวิธีต่างๆ ในขณะที่เนยคือส่วนของไขมันในน้ำนม เกิดจากการนำนมมาปั่นจนไขมันจับกันเป็นก้อน ชีสหรือเนยแข็งจึงมีรสชาติ เนื้อสัมผัส และคุณค่าทางโภชนาการที่ให้ประโยชน์คนละแบบกับเนยธรรมดา

ชีส ที่หลายๆ คนชื่นชอบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนม โดยเติมเชื้อจุลินทรีย์ลงไป แม้จะมาจากนมเหมือนกัน แต่ชีสแต่ละประเภทก็มาจากถิ่นที่แตกต่างกันออกไป และก็มีชื่อเรียกที่ต่างกันด้วย ซึ่งวันนี้ treemusketeers จะพาทุกคนไปรู้จักชีสที่นิยมในบ้านเรากันว่ามีแบบไหนบ้าง ที่เราขอแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก

Parmesan-Cheese

1.มอสซาเรลล่า ชีส (mozzarella cheese)

มอสซาเรลลาเป็นชีสแบบ soft cheese ที่ดั้งเดิมมาจากอิตาลี ซึ่งได้มาจากโปรตีนในน้ำนมวัว จะมีทั้งรูปแบบสีขาวและเหลืองค่ะ โดยแบบสีเหลืองจะมีความชื้นต่ำกว่า จุดเด่นจะมีความยืดและเหนียวนุ่ม เห็นได้บนหน้าพิซซ่าหรือลาซานญ่าที่หลายๆ คนชอบทานนั่นเอง

2.เชดดาชีส (Cheddar cheese)

ชีสยอดฮิตที่หลายๆ คนคุ้นหูกันอีกประเภทอย่างเชดดาชีส ที่มาจากประเทศอังกฤษ เป็นชีสที่ได้จากน้ำนมวัว มีลักษณะเป็น Semi-hard cheese หรือชีสกึ่งแข็งนั่นเองค่ะ สีจะออกเหลือง และมีรสเค็มเล็กน้อยจากการเติมเกลือลงไป เลยเหมาะนำมาใส่ในแซนวิชหรือเบอเกอร์

3.พาร์มีซานชีส (parmesan cheese)

พาร์มีซานชีส เป็นชีสเนื้อแข็งจากอิตาลีที่ขึ้นชื่อเรื่องกลิ่น เพราะมีกลิ่นที่ค่อนข้างแรงจากการเก็บบ่ม แถมยิ่งบ่มนานราคาก็จะยิ่งสูงด้วยนะคะ ทำมาจากนมวัวเหมือนชีสชนิดอื่นๆ รสชาติจะเข้มข้นออกเค็มมัน ส่วนใหญ่จะพบในอาหารอิตาเลียน ทั้งพาสต้า สปาเก็ตตี้ ซีซาร์สลัดและพิซซ่าด้วย

4.สวิสชีส (Swiss Cheese)

ชีสที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีคงหนีไม่พ้นสวิสชีส ที่เป็นชิ้นสีเหลืองอ่อน มีรูโพรงอากาศรอบๆ เป็นจุดเด่น เป็นชีสกึ่งแข็งที่ได้จากนมวัว ซึ่งมาจากสวิตเซอร์แลนด์ตามชื่อเลยค่ะ ใครที่ชอบชีสดิปหรือฟองดูต้องนึกออกแน่นอนเลย เพราะใช้สวิสชีสนี่แหละ

ชีสส่วนประกอบของอาหาร

5.บลูชีส (Blue Cheese)

ชีสที่โดดเด่นทั้งหน้าตาและกลิ่นต้องยกให้บลูชีสเลยค่ะ เป็น crumbly cheese จะออกร่วนๆ ดูจากภายนอกจะเห็นเป็นลวดลายสีฟ้าอมเขียวซึ่งเป็นเชื้อราที่เกิดจากการบ่ม นอกจากหน้าตาที่ไม่เหมือนใครแล้วบลูชีสก็ยังเป็นชีสที่กลิ่นแรงที่สุดด้วยค่ะ โดยชีสชนิดนี้มาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งได้จากนมหลายประเภททั้งนมวัว นมแพะหรือนมแกะก็ได้ มักจะทานคู่กับขนมปัง หรือไวน์ แต่ถ้านำมาปรุงอาหาร ก็จะเป็นเมนูอบชีสแบบต่างๆหรือใส่ในสลัด

6.เกาดาชีส (Gouda Cheese)

ชีสเนื้อแข็งจากเนเธอแลนด์ที่มีชื่อฟังแล้วไม่เหมือนใครอย่างเกาดาชีส เป็นชีสที่ได้จากนมวัวเหมือนชีสส่วนใหญ่ แต่มีหน้าตาที่โดดเด่นไม่เหมือนใครเลยค่ะ เพราะชีสชนิดนี้จะเป็นก้อนกลมแบน ผิวด้านนอกเคลือบด้วยขี้ผึ้งสีแดงสด รสชาติจะออกเค็มและมีกลิ่นแรง ซึ่งเหมาะกับการทานคู่กับไวน์ หรือนำไปปรุงเป็นซอสต่างๆ

ชีส

7.รีคอตต้าชีส (Ricotta Cheese)

อาจไม่คุ้นชื่อกันเท่าไหร่ กับรีคอตต้าชีสซึ่งเป็นชีสสัญชาติอิตาเลี่ยนที่ได้จากหางน้ำนมวัว เป็นชีสแบบเนื้อนุ่ม ดูแล้วจะเป็นเนื้อครีมสีขาว ส่วนมากจึงใช้เป็นส่วนผสมในแพนเค้กและของหวานต่างๆ หรืออาจพบได้ในลาซัญญ่าและพาสต้าด้วย

8.เฟต้าชีส (Feta Cheese)

เฟต้าชีสเป็นชีสที่มีต้นกำเนิดจากประเทศกรีก ซึ่งมีที่มาค่อนข้างแตกต่างจากชีสชนิดอื่นค่ะ เพราะทำมาจากนมแกะ เนื้อจะร่วนเหมือนบลูชีสค่ะ และรสชาติก็เข้มข้นเหมือนกันด้วย เฟต้าชีสนำมาทำอาหารได้หลายอย่างเลยค่ะ ทั้งขนมอบอย่างพายชีส หรือพายผักโขม หรือจะใส่ในสลัดและแซนวิชก็ได้

สนับสนุนโดย slot999.win